facebook comment

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ความน่าเสียดาย

ความน่าเสียดายหลายเรื่อง ข้อเตือนใจมนุษย์เงินเดือน

"........คน ที่กำลังทะเลาะกันมองไม่เห็นหรอกว่าตัวเองถูกหรือผิด คนที่ไม่เคยลำบากไม่รู้ หรอกว่าความลำบากนั้นเป็นอย่างไร คนที่ไม่เคยเป็นหนี้ไม่รู้หรอกว่าการรอคอยให้หมดหนี้ นั้นทรมานเพียงใด คนที่ไม่เคยตกงานไม่รู้หรอกว่าการได้งานทำนั้นสำคัญแค่ไหน ฯลฯ เรื่องบางเรื่องในชีวิตเราอาจจะมีโอกาสทดลองหรือสัมผัสได้มากกว่าหนึ่งครั้ง เรื่องบางเรื่องมีโอกาสแก้ตัวได้ เช่น เคยลำบากมาก่อนเมื่อผ่านชีวิตมาได้แล้วก็พอจะรู้ว่าทำอย่างไรจึงจะไม่ไห้ ลำบากอีกครั้ง แต่…..เรื่อง บางเรื่องในชีวิตนี้จะผ่านมาและเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ไม่มีโอกาสแก้ตัว เพราะเรื่องบางเรื่องต้องอาศัยเวลาเกือบทั้งชีวิตจึงจะรู้ว่าสิ่งที่ผ่านมา นั้นถูกหรือผิด ดีหรือไม่ดี และเรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่งสำหรับคนที่เป็นลูกจ้างหรือมนุษย์เงินเดือนคือ ประสบการณ์ชีวิตหรือข้อคิดจากการเป็นลูกจ้าง ข้อคิดหรือบทเรียนส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นเมื่อเวลาล่วงเลยไปแล้ว ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ผิดซ้ำเรื่องเดิมกับคนรุ่นก่อนๆ จึงขอเป็นตัวแทนของรุ่นพี่ๆ อดีตมนุษย์เงินเดือนมาบอกเล่าให้ฟังว่าคนที่เคยทำงานกินเงินเดือนในรุ่นพี่ ที่ผ่านๆ มาเขาหันกลับมามองอดีตแล้วเกิดความรู้สึก เสียดาย อะไรบ้างหรือพูดง่ายๆ คือ เรื่องไหนบ้างที่อดีตมนุษย์เงินเดือนคิดว่าถ้าย้อนเวลากลับมาได้จะทำให้ดีกว่าที่ผ่านมา
เสียดายไม่ตั้งใจทำงานในช่วงแรกของชีวิตการทำงาน
ไม่ ว่าจะเป็นอดีตมนุษย์เงินเดือนหรือมนุษย์เงินเดือนรุ่นพี่ๆ ในปัจจุบัน มักจะรู้สึกเสียดายกับชีวิตการทำงานที่ผ่านมาเนื่องจากช่วงแรกๆ ของการทำงานไม่ค่อยตั้งใจและทุ่มเทมากนัก เนื่องจากตอนนั้นคิดว่าทำงานแลกกับเงิน ได้เงินน้อยก็ทำน้อย ที่ไหนให้มากก็ขยันขึ้นมาหน่อย คิดอย่างเดียวว่าถ้าขยันทำงาน เจ้านายจะติดใจและใช้มากขึ้นเรื่อยๆ เราก็เหนื่อยอยู่คนเดียว มารู้ตัวอีกครั้งก็ต่อเมื่อทำงานไปตั้งนานไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเสียที เด็กรุ่นใหม่ๆ ที่พึ่งเข้ามาแซงหน้าไปเสียแล้ว ที่สำคัญชีวิตช่วงแรกที่ทำงานมักจะเป็นช่วงที่เรารู้สึกว่าทำงานเหนื่อยกว่า ตอนเรียน ดังนั้น วัยนี้คนทำงานบางคนก็เริ่มเที่ยว ดื่ม กิน ใช้ชีวิตเปลืองมาก เลิกงานเสร็จเที่ยวต่อจนดึกจนดื่น เผลอๆ บางวันใส่ชุดเดิมมาทำงาน (เพราะยังไม่ได้กลับบ้าน) แล้วจะทำงานดีได้อย่างไร กายและใจมาทำงานเพียงครึ่งเดียว เพื่อนบางคนก็มัวแต่ทำงานเพื่อค้นหาตัวเองว่างานที่กำลังทำอยู่นั้นใช่สิ่ง ที่ต้องการหรือไม่ บางคนก็ทำงานเพื่อรอโอกาสหางาน ใหม่ สุดท้ายชีวิตการทำงานในช่วงแรกๆ แทนที่จะมีเส้นการเรียนรู้ที่สูงชันกลับกลายเป็นเส้นการเรียนรู้ที่แบนราบ อายุงานผ่านไป แต่อายุใจที่มีต่องานยังอยู่เท่าเดิม ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากจะตั้งใจและขยันทำงานตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาทำงาน และจะกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทั้งที่เกี่ยวและไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ที่รับผิดชอบ และจะลดหรืองดการเที่ยวและดื่มให้น้อยลง เพราะตอนนี้ผลกรรมเริ่มสนองให้เห็นแล้วว่าการใช้ชีวิตแบบประมาทนั้นส่งผลต่อ สุขภาพร่างกายระยะยาว
เสียดายที่แต่งงานเร็วไปหน่อย
มนุษย์ เงินเดือนเงินหลายคนเสียโอกาสในความก้าวหน้าในอาชีพไปเพราะรีบเป็นฝั่งเป็น ฝาเร็วเกินไป คิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้ว หาเงินได้เองแล้ว ปกครองและดูแลตัวเองได้แล้ว ก็ริคิดที่จะไปเอาคนอื่นมาดูแลเพิ่มเติม (ทั้งๆ ที่ยังไม่ทันได้ดูแลพ่อแม่ที่ส่งเสียให้เรียนมาจนจบ) เมื่อชีวิตแต่งงานเข้ามาเร็วชีวิตครอบครัวเข้ามาเร็ว ปัญหาประจำตำแหน่งชีวิตคู่ก็เข้ามาเร็ว ทั้งๆ ที่อายุงานและประสบการณ์ชีวิตในหน้าที่การงานยังน้อยอยู่ ทำให้ปัญหาครอบครัวเริ่มมาเป็นตัวถ่วงในเรื่องความก้าวหน้าในอาชีพ เพราะไหนจะต้องให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น เวลาที่ทุ่มเทกับงานก็น้อยลง ถ้าใครยังทุ่มเทกับงานมากอยู่อีกก็จะทำให้เกิดปัญหาครอบครัว เงินเก็บที่ยังไม่เต็มที่ก็ต้องควักออกมาใช้ เพราะมีลูกทั้งๆ ที่ยังไม่พร้อมในหลายๆ ด้าน คิดง่ายๆ ว่าในช่วงเวลาเดียวกันเพื่อนเราที่ยังไม่แต่งงานเขามีเวลาทุ่มเทกับการทำงาน เพื่อปีนป่ายขึ้นไปสู่จุดหมายแห่งความสำเร็จ ในขณะที่เราต้องปีนป่ายเหมือนกับเขา แต่เราต้องกระเตงคู่สามีหรือภรรยาและลูกไปด้วย นึกดูเอาเองก็แล้วกันนะครับว่าใครจะปีนไปได้สูงและไกลกว่ากัน ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากจะทำงานก่อนสักระยะหนึ่ง อย่างน้อยก็ได้มีโอกาสเลื่อนตำแหน่งมาบ้างแล้วจึงคิดจะแต่งงาน อย่างน้อยก็ต้องมีเงินเก็บมาบ้างแล้ว หรืออาจจะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานที่เพียงพอต่อการหางานใหม่ที่มีตำแหน่ง ที่สูงกว่าก่อนจึงจะแต่งงาน และการที่เรามีเวลาทำงานผ่านไปสักระยะหนึ่งก็น่าจะมีเวลาในการคบหาหรือดูใจ กับที่เราจะเลือกมาเป็นคู่ได้ดีขึ้น
เสียดายที่ไม่ได้ศึกษาต่อ  
ความ เสียดายข้อนี้เชื่อว่าเกินครึ่งของมนุษย์เงินเดือนที่มีความรู้สึกแบบนี้ เพราะตอนเข้ามาทำงานแรกๆ เกือบทุกคนมักจะคิดว่าจะหาเวลาศึกษาต่อ รอเก็บเงินค่าเทอมไปสักพักก่อนและรอให้ทำงานเข้าที่ก่อน แต่ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่างทำให้มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่พลาดเป้าหมายนี้ไป เช่น งานยุ่งไม่มีเวลาเรียน พอจะเรียนก็เปลี่ยนงาน (เหตุผลเดิม คือ รอให้งานเข้าที่แล้วค่อยเรียน) ไม่มีเงินค่าเทอม ขี้เกียจอ่านหนังสือ สอบไม่ได้ (เพราะไม่ตั้งใจ) ใจอยากเรียนแต่ไม่เคยแม้แต่จะลงมือทำอะไรเลย เลือกที่เรียนมากเกินไป บางคนลองไปเรียนแล้วแต่ไปไม่รอดเพราะแบ่งเวลาไม่เป็น อดีตมนุษย์เงินเดือนหลายคนคิดย้อนกลับไปว่าถ้าตอนนั้นเรียนต่อในระดับนั้น ระดับนี้ ป่านนี้คงจะประสบความสำเร็จไปมากกว่านี้แน่นอน เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งมีโอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิต คุณสมบัติครบทุกอย่าง ขาดอย่างเดียวคือวุฒิการศึกษาไม่ถึง เลยเสียโอกาสที่สำคัญในชีวิตการทำงานไป มาถึงตอนนี้ก็แก่เกินเรียนแล้ว ยิ่งออกมาทำธุรกิจส่วนตัวถึงแม้เวลาจะมีมากขึ้น แต่กำลังใจมีน้อยลง แรงใจมีน้อยลง และไม่รู้จะเรียนไปทำไม เพราะงานธุรกิจส่วนตัวที่ทำอยู่ไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาสูงๆ ก็ได้ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คิดว่าจะต้องตัดสินใจเรียนตั้งแต่เพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ สักปีสองปี จะยอมอดทนไปสักระยะหนึ่ง และจะเรียนให้จบก่อนที่จะเปลี่ยนงานใหม่หรือมีครอบครัว
เสียดายที่มัวแต่ทะเลาะกับเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน  
มนุษย์ เงินเดือนหลายคนเสียเวลาไปกับปัญหาคนเยอะมาก ทั้งปัญหาหัวหน้า ปัญหาเพื่อนร่วมงาน บางคนก็มีปัญหากับลูกน้องอีก วันๆ เสียเวลาของสมองไปกับการคิดถึงปัญหาคนอื่น ตอนที่เป็นลูกจ้างเรามักจะคิดว่าปัญหาทะเลาะกับคนทำงานเป็นปัญหาใหญ่ เลยใช้เวลากับมันมาก เครียดกับมันบ่อยแทบจะไม่มีเวลาไปพัฒนาหรือปรับปรุงหรือพัฒนาตนเองเลย ตอนนั้นลืมไปว่าจริงๆ แล้วไม่มีใครทำงานอยู่กับเราไปตลอดชีวิตและเราเองก็ไม่ได้ทำงานอยู่กับคนที่ เราไม่ชอบไปตลอดชีวิตเช่นกัน แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดแบบนี้ คิดอย่างเดียวว่าวันนี้เรากับเขาจะมีปัญหากันเรื่องอะไรอีก คิดว่าเรื่องเมื่อวานมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ใครเป็นคนผิด ทำไมเขาจึงเป็นคนแบบนั้น สุดท้ายเราก็จะจมอยู่กับปัญหา คนที่บางครั้งเคยหนีจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งแล้ว ปัญหาคนเก่าหายไป แต่….ปัญหา คนใหม่ก็เกิดขึ้น ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากจะคิดเสียว่าปัญหาคนเหมือนกับปัญหารถชนกันบนถนนที่เราไม่ต้องไปสนใจกับ มันให้มากนัก แต่เราควรจะสนใจว่าเส้นทางที่เรากำลังจะเดินไปนั้นอยู่ไกลหรือไม่ เรามีเวลาเหลืออีกนานหรือไม่ ต้องคิดว่าไม่มีใครทำงานกับเราไปตลอดชีวิตและเราเองก็ไม่ได้ทำงานกับใครไป ตลอดชีวิตเช่นกัน และคิดว่าถ้าเรารับปัญหาคนอื่นไม่ได้ เราคงจะก้าวขึ้นไปในตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงขึ้นไปไม่ได้ เพราะยิ่งสูงปัญหาคนยิ่งมากและซับซ้อนมากขึ้น
เสียดายที่เปลี่ยนงานมากไปหน่อย  
ถ้า ดูประวัติมนุษย์เงินเดือนบางคน จะเห็นว่าเปลี่ยนงานทุกปีๆ ละครั้งสองครั้ง ตอนที่เปลี่ยนงานก็มีเหตุผลมาสนับสนุนมากมาย เช่น เงินเดือนสูงกว่า อยู่ใกล้บ้าน เบื่อที่ทำงานเก่า งานใหม่ท้าทายกว่า อยากทำงานกับบริษัทข้ามชาติ ฯลฯ แต่เมื่อมาถามตอนนี้ว่าผลการเปลี่ยนงานบ่อยในอดีตสรุปว่าดีหรือไม่ คำตอบที่ได้ก็มีทั้งดีและไม่ดี แต่หลายคนตอบถ้าพิจารณาถึงผลระยะยาวแล้วอาจจะไม่เป็นผลดีมากนัก เพราะประสบการณ์ในแต่ละที่นั้นน้อยเกินไป ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากจะทำงานในแต่ละที่ไม่น้อยกว่า 3 ปี เพราะน่าจะเป็นเวลาที่เราได้ครบทั้งการเรียนรู้ (Learn) การทำงาน (Perform) และการพัฒนาปรับปรุงงาน (Improve) แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นอาจจะต้องขึ้นอยู่กับช่วงชีวิต เพราะบางช่วงอาจจะเปลี่ยนบ่อยเพราะตลาดกำลังโต ชีวิตกำลังรุ่ง แต่บางช่วงอาจจะต้องอยู่นาน เพราะต้องหยุดพักหายใจและสั่งสมประสบการณ์ ก่อนที่จะไต่ระดับขึ้นสู่เพดานบินที่สูงขึ้น
เสียดายที่ไม่ตั้งใจเรียนภาษาต่างประเทศ  
เสียดายภาษาอังกฤษไม่ดี เป็นคำพูดที่ได้ยินจากอดีตมนุษย์เงินเดือนที่ไปสัมภาษณ์งานมาใหม่ๆ ที่มักจะรู้สึกเสียดายบริษัทฝรั่งที่เสนอเงินเดือนให้สูงๆ แต่ติดที่ภาษาอังกฤษไม่กระดิกเลย เพราะไม่ได้จบ (เมือง) นอก และทำงานแต่บริษัทคนไทยจึงไม่มีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษเลย บางคนจะหันมาเอาดีในการเรียนภาษาก็ต่อเมื่อบินสูงแล้ว ซึ่งพัฒนาได้ยากแล้วเพราะมีเวลาน้อยและภารกิจทั้งเรื่องงานและเรื่องครอบ ครัวที่เพิ่มมากขึ้น ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะเรียนภาษาโดยเฉพาะภาษาอังกฤษตั้งแต่เริ่มทำงานและจะเลือกทำงานกับบริษัท ต่างชาติตั้งแต่ต้น หรือไม่ก็อาจจะหาเงินไปเรียนต่อต่างประเทศ
เสียดายที่หาตัวเองเจอช้าไปหน่อย  
มนุษย์ เงินเดือนบางคนทำงานมาเป็นสิบปีแล้ว ยังหาตัวเองไม่เจอเลยว่าเป้าหมายชีวิตของตัวเองคืออะไร จะทำงานเป็นลูกจ้างไปเรื่อยๆ จนเกษียณหรือจะออกไปทำอาชีพอิสระ ขนาดถามว่างานที่ชอบหรืออยากทำคืองานอะไรยังตอบไม่ได้เลย อย่างนี้จะก้าวหน้าในอาชีพการงานได้อย่างไรละ พูดง่ายๆ คืออดีตมนุษย์เงินเดือนหลายคนทำงานเหมือนกับพายเรืออยู่ในอ่าง วันๆ ก็ตื่นขึ้นมาไปทำงานเสร็จงานกลับบ้าน จันทร์ถึงศุกร์ทำงาน เสาร์อาทิตย์อยู่บ้าน รูปแบบชีวิตเหมือนเดิมเป็นเดือนเป็นปีบางคนเป็นสิบปี มารู้ตัวอีกทีก็ช้าไปเสียแล้ว เพื่อนๆ รุ่นเดียวกันไปไหนต่อไหนจนมองไม่เห็นหลังกันแล้ว ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากจะวางแผนชีวิตตัวเองตั้งแต่เริ่มทำงานว่าอีกกี่ปีจะเป็นอะไร จะทำอะไร จะต้องได้อะไร และแต่ละวันแต่ละเดือน แต่ละปีควรจะทำอะไรบ้าง อย่างไร
เสียดายที่ทำงานอยู่ที่ใดที่หนึ่งนานเกินไป  
คน บางคนไม่ได้เปลี่ยนงานบ่อย แต่ไม่เคยเปลี่ยนงานเลย ตอนที่ทำงานอยู่รู้สึกว่าเราเป็นคนดีขององค์กรที่ไม่ยอมเปลี่ยนงานไปไหนเลย แต่พอชีวิตการทำงานผ่านเลยไปก็รู้สึกเสียใจและเสียดายเหมือนกันที่ชีวิตการ ทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียว สังคมเดียว คนบางคนอยู่ที่ใดที่หนึ่งนานเกินไปช่วงเวลาที่กำลังรุ่งก็ไม่ยอมเปลี่ยนงาน พอจังหวะชีวิตผ่านไปก็คิดจะเปลี่ยนงาน ก็ทำได้ยากแล้ว เพราะเงินเดือนสูง อายุงานเยอะ แต่ตำแหน่งต่ำ ไปสมัครตำแหน่งที่สูงเกินไปเขาก็ไม่รับ สมัครในตำแหน่งที่เท่าเดิมก็แก่กว่าคนอื่นๆ (แถมเงินเดือนสูงอีกต่างหาก) ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากจะเปลี่ยนงานในจังหวะที่เหมาะสมเพื่อปรับเพดานบินให้เหมาะสมกับอายุตัว และอายุงาน โดยไม่ต้องยึดติดว่าจะต้องอยู่กับองค์กรใด องค์กรหนึ่งนานจนเกินไป
 
ทั้งหมดนี้ ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์เงินเดือนควรจะเชื่อและเอาแบบอย่าง แต่ก็ไม่อยากให้มนุษย์เงินเดือนมองข้ามคำว่า เสียดาย ของมนุษย์เงินเดือนรุ่นพี่ๆ หรืออดีตมนุษย์เงินเดือนไป อย่างน้อยก็น่าจะนำไปเป็นคำถามตัวเองว่าเราอยากรู้สึกเสียดายในเรื่องนั้น เรื่องนี้เหมือนรุ่นพี่ๆ หรือไม่ ถ้าไม่เราควรจะทำอย่างไรตั้งแต่วันนี้

วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ก่อร่าง....สร้างฟาร์ม

ศิษฎาฟาร์ม...ก็เริ่มจากศูนย์ค่อย ๆนับหนึ่ง..นับสอง ..จนมีวันนี้..
ยังจำวันที่เห็ดดอกแรก...เบ่งบานได้ดี
อย่างที่บอกละครับ การทำฟาร์มเห็ดมันก็มีขั้นตอนของมันเราต้องค่อย ๆ เริ่มไปตามขั้นตอนของมันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเราข้ามขั้นตอนไปโดยที่ยังไม่สามารถรู้ถึงทุกขั้นตอนได้..ทำฟาร์มเห็ดต่อให้มีเงินเป็นล้านก็เจ๊ง...ได้ครับ ถ้ามีความรู้และประสพการณ์ไม่พอที่ผมพูดอย่างนี้ไม่ใช่ว่าผมเก่งหรือว่ามีความรู้มากมายอะไรนะครับ..เพียงแต่ผมเป็นคนช่างสังเกตครับประสพการณ์เท่านั้นครับที่สอนผม...ผมทำฟาร์มเห็ดเพาะเห็ดโดยไม่ได้ไปเรียนหรืออบรมที่ใหนเลย...คนอย่างผมยังทำได้ครับ คุณก็ทำได้..........

วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

กินเห็ดสามอย่าง!!! ช่วยล้างสารพิษในร่างกายได้จริงหรือ???



เห็ดสามอย่าง คือ เห็ด 3 ชนิดหรือ 3 ชนิดขึ้นไป
จะเป็นเห็ดสด เห็ดแห้ง ก้อได้ นำมาปรุงอาหาร
ซึ่งเราสามารถกินได้ทั้งเนื้อเห็ดและน้ำต้มเห็ด
ประโยชน์ของเห็ดสามอย่าง
เมื่อนำเห็ดสามอย่าง มาปรุงอาหารร่วมกัน
จะช่วยล้างสารพิษที่ตกค้างในตับ ช่วยบำรุงตับ
ช่วยลดอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดเป็นเซลส์มะเร็งได้
เห็ดชนิดเดียว ประโยชน์แม้จะมีแต่ยังไม่มากนัก
เท่ากับการนำเห็ดมารวมกัน 3 ชนิดหรือ 3 ชนิดขึ้นไป
เห็ดที่นำมาใช้ ต้องเป็นเห็ดที่กินได้ อันได้แก่
เห็ดหอม, เห็ดฟาง, เห็ดนางฟ้า, เห็ดโคน
เห็ดหูหนู, เห็ดเข็มทอง, เห็ดออรินจิ เป็นต้น
แต่ต้องนำเห็ดมาล้างน้ำให้สะอาดก่อนนำมาปรุงอาหาร

จึงจะไม่มีสารพิษตกค้าง และเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง
การกินเห็ดสามอย่าง มีประโยชน์มากเพียงใดและอย่างไร???
โปรตีนในเห็ดสามอย่าง เมื่อนำมารวมกันประกอบอาหารแล้ว
จะได้โปรตีนที่ร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้ง่ายที่สุด
ง่ายกว่าเนื้อสัตว์มากมายนัก
โปรตีนจากเห็ด จะไปสร้างกรดอะมิโนที่บำรุงสมอง
ช่วยปรับสมดุลในการสร้างเซลส์ใหม่ของร่างกาย
ต้านการเกิดมะเร็ง ช่วยขจัดสารพิษ
น้ำต้มเห็ดสามอย่าง ก็ใช้ทำเป็นน้ำซุปปรุงอาหารก็ได้
แต่ไม่ควรนำเห็ดสามอย่าง ผัดด้วยน้ำมัน
ควรใช้กะทิแทนน้ำมัน เพราะกะทิเป็นไขมันที่ละลายน้ำได้
และกะทิมีโคเรสเตอรอลชนิดดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
นี่แหละครับ เรื่องราวของเห็ดที่หลายต่อหลายคนชื่นชอบ
วันพุธเองก้อชอบกินเห็ดเกือบทุกชนิด เพราะอร่อยดี
และมีคุณค่าทางอาหารสูง ยิ่งหากนำมาปรุงอย่างถูกวิธี
ก้อจะทำให้ได้อาหารที่อร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย
คนที่ไม่ค่อยชอบกินเห็ด ก็ลองกินดูสักนิด ก็ดีครับ
อาจเริ่มต้นจาก เห็ดที่กินง่ายๆ อย่างเห็ดฟาง เห็ดเข็มทอง
แล้วค่อยกินเห็ดหลายๆอย่างร่วมกัน ก็น่าจะดีไม่น้อยว่าไหมครับ

วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ประโยชน์ของ การปลูกเห็ดนางฟ้า

ประโยชน์ของ การปลูกเห็ดนางฟ้า

 

มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย
และก็ยังมีสรรพคุณทางยา ที่ชาวจีนจัดว่า เป็นยาเย็น
ที่มีสรรพคุณช่วยลดไข้ เพิ่มพลังชีวิต แก้ร้อนใน
ช่วยให้หายหงุดหงิด บำรุงเซลล์ประสาท
สามารถรักษาอาการอัลไซเมอร์ และที่สำคัญยังสามารถ
ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย
  
  เชิญแวะชมได้ที่ สถาบันวิจัยและพัฒนาพันธุ์เห็ดนางฟ้า จ.ระยอง บ้านรักเห็ด 089-2502273 ครับ..

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เมนูมังสวิรัต เห็ดสวรรค์



 
เครื่องปรุง เห็ดสวรรค์
  • เห็ดนางฟ้า, งาขาว
  • ซีอิ๊วขาว, น้ำตาลปี๊บ
  •  
      เครื่องปรุง เห็ดสวรรค์  
      วิธีทำ เห็ดสวรรค์
    • เห็ดนางฟ้า ฉีกเป็นเส้นๆ แล้วนำไปตามแดดจนรู้สึกแห้ง (วันที่ทำไม่ค่อยมีแดดเลยนำไปอบแห้งแทน อิอิ)
    • พอแห้งแล้ว ก็ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อนก็ใสเห็ดลงไปได้เลย ใช้ไฟปานกลาง
    • ทอดจนเหลืองตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
     
      เห็ดนางฟ้า  
     
    • ตั้งกระทะจากนั้นใส่ ซีอิ๊วขาว น้ำตาลปี๊บ ในปริมาณพอๆ กัน
    • จากนั้นคนให้เข้ากัน ชิมดูให้ออกรส หวานเค็ม
     
      วิธีทำ เห็ดสวรรค์  
     
    • จากนั้นนำ เห็ดนางฟ้า ที่ทอดพักไว้ใส่ลงไป ตามด้วย งาขาว
    • คลุกให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ
     
      วิธีทำ เห็ดสวรรค์  
         
     
    สามารถทำเยอะๆ ใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิด เก็บไว้ทานหลายๆ วันได้เลย
     
         
      เห็ดสวรรค์  
         
     
    ทานอาหารปราศจากเนื้อสัตว์แล้ว อย่าลืมทำจิตใจให้ปราศจากสิ่งชั่วร้าย ด้วยนะค่ะ
    ไม่มีอะไรยาก มีก็แต่ คุณจะทำ หรือไม่ทำเท่านั้นเอง

    วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

    ประการที่สำคัญของเศรษฐกิจพอเพียง

    ประการที่สำคัญของเศรษฐกิจพอเพียง
              1. พอมีพอกิน ปลูกพืชสวนครัวไว้กินเองบ้าง ปลูกไม้ผลไว้หลังบ้าน 2-3 ต้น พอที่จะมีไว้กินเองในครัวเรือน เหลือจึงขายไป
              2. พออยู่พอใช้ ทำให้บ้านน่าอยู่ ปราศจากสารเคมี กลิ่นเหม็น ใช้แต่ของที่เป็นธรรมชาติ (ใช้จุลินทรีย์ผสมน้ำถูพื้นบ้าน จะสะอาดกว่าใช้น้ำยาเคมี) รายจ่ายลดลง สุขภาพจะดีขึ้น (ประหยัดค่ารักษาพยาบาล)
              3. พออกพอใจ เราต้องรู้จักพอ รู้จักประมาณตน ไม่ใคร่อยากใคร่มีเช่นผู้อื่น เพราะเราจะหลงติดกับวัตถุ ปัญญาจะไม่เกิด
              " การจะเป็นเสือนั้นมันไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่เราพออยู่พอกิน และมีเศรษฐกิจการเป็นอยู่แบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกิน หมายความว่า อุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง "
    "เศรษฐกิจพอเพียง" จะสำเร็จได้ด้วย "ความพอดีของตน"

    น้ำยาล้างจาน น้ำยาเอนกประสงค์

    น้ำยาล้างจาน น้ำยาเอนกประสงค์
    สูตรอาจารย์พูนสวัสดิ์
    ส่วนผสม
    • N70 (หัวแชมพู)                     1     กิโลกรัม
    • F24 (สารขจัดคราบไขมัน)      1/2  กิโลกรัม
    • เกลือ                                    1-1.5 กิโลกรัม
    วิธีทำ
    1. ต้มเกลือโดยใช้น้ำ 2-3 ลิตร จนเกลือละลายหมด ตั้งไว้จนเย็น
    2. เอา N 7O ผสมกับ F 24 กวนให้เข้ากัน ราว 10 นาที
    3. ค่อยๆเทน้ำเกลือลงไปทีละน้อยๆ แล้วกวนให้เข้ากัน จนหมด
    4. หลังจากนั้น เติมน้ำลงไปและกวนเรื่อยๆ โดยใช้น้ำประมาณ 10-15 ลิตร ทั้งนี้ให้สังเกตว่า ความข้นของน้ำยาอเนกประสงค์ หากยังข้นหรือเหนียวมาก ก็สามารถเติมน้ำเปล่า ลงไปได้อีก จนเห็นว่า ได้ความข้นที่เหมาะสม
    5. ใส่หัวน้ำหอม กวนให้เข้ากัน แล้วตั้งทิ้งไว้จนฟองยุบ(1 คืน) แล้วตักใส่ขวดเอาไว้ใช้
    นอกจากนี้ อาจจะใช้น้ำผลไม้เปรี้ยว หรือน้ำหมักจากผลไม้เปรี้ยวทดแทนน้ำได้บ้าง
     ไม่ยากใช่มั๊ยครับ ตอนที่ผมทำผมใช้ส่วนผสมครึ่งหนึ่งของสูตรนี้ก็ได้น้ำยาล้างจานประมาณ 10 ลิตร ด้วยเงินลงทุน 55 บาท แจกคนในละแวกใกล้ๆ บ้านจนหมด ผลตอบรับที่กลับมาเป็นเสียงเดียวกันว่า "ดีกว่าน้ำยาล้างจานยี่ห้อ..." ไม่พูดถึงนะครับว่ายี่ห้ออะไร
    เห็นมั๊ยครับว่าถ้าสามารถทำเองได้ประหยัดกว่าซื้อตั้งเยอะ เรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงอย่าทำให้เป็นเรื่องยาก ถ้าอันไหนที่ทำแล้วสามารถพึ่งตัวเองได้ก็เป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจพอเพียงแล้วครับ อีกอย่างคุณก็จะเป็น "คนมีน้ำยา"
    ปล. สำหรับใครที่ทราบว่า N70, F24 มีชื่อเต็มๆ ว่าอย่างไรช่วยบอกผมหน่อยนะครับ ลืมถามอาจารย์ ค้นก็ไม่เจอ

    วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

    กำหนดเวลา อย่าให้เวลากำหนดเรา


    ทุกๆวันนี้ผมมีชีวิตอย่างที่ต้องการได้โดยที่ไม่ต้องทำงานประจำไม่ต้องทำงานกินเงินเดือน ผมก็มีชีวิตอยู่ได้ มีเวลาให้กับครอบครัว อยากรู้ใหมครับผมทำยังไง...........
    เริ่มจากเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ก่อน
    บางคนทำงานหนักเพียงเพื่อหวังจะมีเงินเก็บสักก้อนแล้วมาทำธุรกิจส่วนตัว แต่ว่ายังไม่รู้ว่าวันไหน ?
    บางคนทำงานแบบเช้าชามเย็นชามเพียงเพื่อให้มีเงินเลี้ยงชีพไปวัน ๆ
    บางคนทำงานหนักเพื่อเลี้ยงลูกเพื่อผ่อนรถ ผ่อนบ้าน
    ทุก ๆคนล้วนต่างมีอาชีพต่างกัน มีรายได้ต่างกัน
    บางคนอาจได้เดือนละ 4 หมื่น แต่ต้องทำงานทุกวันแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน ผ่อนบ้าน 10,000 /เดือน รถ  10,000/เดือน ส่งลูกเรียน 10,000/เดือน เหลือ กินใช้ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเน็ต 10,000/เดือน
    หรือบางคนอาจจะได้เพียงเดือนละ10,000 หรือไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่ที่ผมจะบอก

    เปิดดอก....!!!!!




    วันนี้ในตอนเช้า ก็หลังจากไปกรีดยางเสร็จ ก็มานั่งเปิดฝาที่ปิดก้อนเห็ดออกครับ..
    เห็ดเต็มถุง

    ราเห็ดเต็มเลย...

    วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555

    ถาวร ฟาร์ม เห็ด....เห็ด


    สวัสดีครับ......ห่างหายกันไปนานไม่ค่อยได้มีเวลาว่างเข้ามาเขียนบล็อกเลย...


    ตอนนี้ปลาดุกที่เลี้ยงไว้ได้เดือนกว่าตัวใหญ่พอจับกินได้บ้างแล้วนะครับ..


    200 กว่าตัว นะบ่อแค่นี้ ....






    อีกทั้งถั่วฝักยาวก็เก็บกินได้แล้วส่วนถั่วพูนั้นยังไม่มีฝัก..

    ผักคะน้าก็ทำคะน้าปลากระป๋องกินไปชุดหนึ่งแล้ว

    วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

    สัมผัส ธรรมชาติ ณ อุทยานแห่งชาติ เขา ชะเมา-เขาวง

    อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง (กิ่งอำเภอเขาชะเมา), ระยอง

    ท่านี้สุดๆๆ

     

     เตรียมตัวก่อนไปเที่ยว...555
    มาถึงแล้ว........
    สะพานข้างในน้ำตกสวย ๆ

    วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

    วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

    จะทำอะไรในวันที่ฝนตกๆๆๆ

     วันนี้ฝนตกไหลลงที่หน้าต่าง เธอคิดถึงฉันบ้าง  ใหมหนอเธอ.....
     ท่วมซิครับ......  บ่อปลาดุกผม
     ดีนะมันยังไม่ออก

    วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

    ยินดีต้อนรับเข้าสู่ ระยองไทยแลนด์ ครับ

    wellcome to rayongthailand.blogspot.com
      ยินดีครับที่ได้ต้อนรับ....ขอบคุณมากครับที่แวะเข้ามาเยี่ยมกัน.
    เว็บบล็อกนี้จัดทำขึ้นก็เพื่อที่จะได้แบ่งปันเรื่องราวต่างๆที่ได้เกิดขึ้นในชีวิตของผม....
    เพื่อให้คุณๆที่เข้ามาอ่านหาความรู้จากบล็อกแห่งนี้ได้ไม่มากก็น้อยละครับ..

    เป้าหมายในชีวิต



    เป้าหมายในชีวิต
    ถ้าคุณต้องการที่จะประสพความสำเร็จ อะไรสักอย่าง คุณจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนครับไม่อย่างนั้นก็ไม่มีวันที่จะไปถึงเป้าหมายได้อย่างแน่นอน  เป้าหมายในชีวิตก็เช่นปีนี้อยากได้อะไร..อยากไปเที่ยวที่ไหน และต้องลงรายละเอียดกับมันด้วย
    ผมตั้งเป้าหมายของผมไว้ 5 อย่างครับ
    1.ใช้หนี้ให้พ่อที่กู้มาซื้อบ้าน  1ล้านบาท  ภายใน 10 ปี.

    2.ไปเที่ยวต่างประเทศ ที่ผมอยากจะไปก็คือ

    วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

    เข้าชมรมคนรักนกกรงหัวจุก....555

    จากที่ว่างจัดๆๆก็หาอะไรทำไปเรื่อย พอดีมีน้าเค้าเล่นแข่งนกกรงหัวจุกก็เลยเอากับเค้า บ้างครับ


        4 ตัว พอเป็นกระษัย.

    วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

    พบแล้วการทำงานทางอินเตอร์เน็ตที่ได้เงินจริง

    พบแล้วการทำงานทางอินเตอร์เน็ตที่ทำเงินได้จริง...

        ระบบอินเตอร์เน็ต มีบทบาทอย่างมาก ในการสนับสนุนระบบการทำงานจากที่บ้าน ปัจจุบันทั่วโลกได้ให้ความสำคัญกับอินเตอร์เน็ต ซึ่งแม้กระทั่งมือถือ ก็ยังสามารถท่องเว็บได้ หรือแม้ว่าอยู่ต่างถิ่น ก็ยังสามารถเชื่อมโลกอินเตอร์เน็ตได้ และในอนาคต อินเตอร์เน็ต จะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน และผู้ที่มองเห็นโอกาสเท่านั้น ที่สามารถสร้างรายได้จากการเติบโตของอินเตอร์เน็ต โดยใช้ website email และ social network ให้เกิดประโยชน์ ทำทุกวิธีให้มีคนชมเว็บของเราให้มากขึ้น รายได้ก็จะมากขึ้นตาม เช่นการทำร้านค้าออนไลน์ การทำธุรกิจขายตรง การทำธุรกิจประมูล การทำธุรกิจโฆษณา และการทำธุรกิจออนไลน์อื่นๆ
        คุณมีธุรกิจที่สร้างรายได้ เติบโตไปพร้อมกับระบบอินเตอร์เน็ตแล้วหรือยัง

    ลองทำตามผมดูก็ได้ครับ เพราะผมทำมันได้แล้วจริง ๆๆ    http://zeekrewards-th.siamvip.com 

      เป็นเว็บไซต์ธุรกิจของผมเองครับ...ถ้าสนใจก็ติดต่อมาได้นะครับ..ลองคุยกันดูก่อนครับไม่ยากหรอกครับ

    วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

    เลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติกไว้กิน......

     เริ่มแรกก็เตรียมพื้นที่ถากถาง หญ้า วัชพืชต่างๆ ปรับหน้าดินให้เรียบ


     แล้วก็เริ่มขุดดินให้เป็นบ่อ ขนาด 1.5 เมตร คูณ 1.5 เมตร


     ลูกปลาดุกตัว ละ 1.50 บาท  เอามา 200 บาท 200 ตัว แถมให้
     กว่าจะได้ขนาดนี้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน...



    ปู พลาสติก ขนาด 3 คูณ 3 เมตร หาหินหาไม้ทับไว้
    เอาน้ำลงได้เลย............



    ลูกปลาจะอาศัยอยู่ตามร่มที่ทำไว้ให้...

    ลงไปแล้วครับ เดี๋ยวไปหา ซื้ออาหารลูกปลาก่อน........
    แต่ที่คิดไว้ตอนกลางคืนจะเอาไฟมาติดล่อแมลงให้ปลาดุกกิน เป็นการประหยัด...
      การทำอาหารปลาดุก...
     
                ส่วนผสม
                1. รำละเอียด                 2          กระสอบปุ๋ย
                2. กากมะพร้าว               1          กระสอบปุ๋ย
                3. ปลาป่น                     6          กิโลกรัม
                4. กากถั่วเหลือง             6          กิโลกรัม
                5. จุลินทรีย์ EM              1          ลิตร
                6. กากน้ำตาล                1          กิโลกรัม
                7. น้ำมันพืช                   1 2    ลิตร
                วิธีทำ
    1.      นำส่วนผสมข้อ 1  1 กระสอบ ข้อ 2,3,4 คลุกให้เข้ากัน
    2.      นำส่วนผสม ข้อ 5,6 ผสมน้ำ  20  ลิตร  เพื่อคลุกเคล้าส่วนผสม  ข้อ 1 หมักไว้ 12 ชั่วโมง
    3.      นำส่วนผสมที่หมักไว้ในข้อ 1,2 ผสมกับรำละเอียด  1 กระสอบและน้ำมันพืช 1 2 ลิตร
    คลุกเคล้านำเข้าเครื่องอัดเม็ดผึ่งแดด 2 วัน เก็บไว้ได้ 2 เดือน
    เกร็ดความรู้
    1.      การซื้อพันธุ์ปลาก่อนการเคลื่อนย้ายให้ปลาอดอาหาร 1 2 วัน เพื่อป้องกันปลาดิ้นและ
    ทำให้ปลาไส้ขาดเวลาเลี้ยงปลาจะไม่โต
    2.      การเคลื่อนย้ายปลาให้เตรียม น้ำมันพืช 30 ซีซี : เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ  คนให้เข้ากันตักใส่ใน
    ถุงหรือที่มีพันธุ์ปลา อยู่ประมาณ  1  ช้อนชา  เพื่อป้องกันปลาบาดเจ็บ
    3.      การป้องกันปลาหนีจากบ่อเวลาฝนตก ใช่วิธีหากมีฝนตกให้หว่านอาหารให้ปลากิน สัก
    2 3 ครั้ง เพื่อหลอกว่าเวลาฝนตกจะได้กินอาหารแล้วปลาจะไม่หนี
                            4. การเปลี่ยนถ่ายน้ำให้ดูดน้ำออก 1 ส่วน ใน 3 ส่วน และนำน้ำที่ใส่ใหม่ให้ทำเป็นละอองฝอยโดยใช้สายยางเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้แก่ปลา
                            5. การจับปลาเพื่อบริโภคโดยใช้วิธีใช้สายยางฉีดน้ำเหมือนกับฝนตกปลาจะเล่นน้ำจากนั้นใช้สวิงตักปลา ที่เล่นน้ำทันที ปลาจะไม่รู้สึกถึงอันตรายและจะกินอาหารต่อและไม่หนี











                          







    วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555

    มือสมัครเล่นครับ...


    วันนี้ก็เป็นอีกวันครับที่ตื่นตี 4 ลุกขึ้นมาแต่งตัวชุดทำงาน พร้อมกับอุปกรณ์ 2 อย่าง คือ
    1.มีดตัดยาง
    2.ไฟฉายแบตเตอรี่ คาดหน้าผาก 

    หลังจากนั้นก็เริ่มลงมือกรีดยาง สวนแรก ประมาณ  600 กว่าต้น  ค่อย ๆฝึกไปครับ มือใหม่ ก็ไม่ยากเท่าไร แต่ว่าจะช้าไปหน่อยเท่านั้นเอง วิธีการก็ไม่ยากอาศัยทำบ่อย ๆ ครับแล้วจะเกิดความชำนาญไปเอง ใหม่ๆ กว่าจะกรีดได้ 1 ต้นก็ใช้เวลาประมาณ ครึ่งนาที แต่ต้องระวังนิดนึงตรงที่ถ้ารีบร้อนจนเกินไปไม่ระวังอาจทำให้ปีกด้านในของมีด บาดลำต้นได้ เรียกว่า “เข้าแก่น” ต้องระวังครับ ถ้าลำต้นเป็นแผลแล้วจะทำให้ผิวหน้าไม่เรียบการกรีดในรอบต่อ ๆ ไปจะยากลำบาก
    เอาละครับกว่าจะเสร็จก็ตี 5 กว่า ๆ ใช้เวลาประมาณ  ชั่วโมงกว่า ๆ  มือสมัครเล่นครับ ถ้ามืออาชีพก็น่าจะ ประมาณ ครึ่งชั่วโมง